“ทนายตั้ม” ไม่กลัวโดนฟ้อง บอกโพสต์สาปแช่ง ไม่ได้เจาะจงใคร
"ชูวิทย์" โต้ปมรับเงินสีเทา มอบ "อนันต์ชัย" ดำเนินคดี "ทนายตั้ม"
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ หรือ ทนายตั้ม เปิดใจครั้งแรกผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังโดนชาวเน็ตถล่มอย่างหนัก จากการที่โพตส์รูปภาพไปทำบุญ พร้อมระบุข้อความสาปแช่งคนที่เคยรับเงินของแก๊งสารวัตรซัว หรือ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล
โดย ทนายษิทรา ระบุว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดยสังคมรุมด่า ซึ่งถือเป็นเรื่องเล็ก ขอให้รอดูกันยาว ๆ พร้อมเตรียมเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ และขอให้สังคมเข้าใจกับสิ่งที่ตนทำคำพูดจาก เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์
ณ วันนี้ทุกคนด่าผม สาปผมไปเถอะครับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทัวร์ลง ผมพูดอะไรที่พวกคุณชอบ คุณก็อวยผม ผมเห็นต่างคุณก็เอาทัวร์มาลง ผมผ่านสังคมล่าแม่มดมากี่ยุคกี่สมัย เรื่องแค่นี้เรื่องเล็ก อย่างเรื่องนี้เองตามกฎหมาย มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง คุณก็รู้ก็เห็นกันดี อดทนรอดูกันไปยาว ๆ แล้วกันครับ
ข้อมูลทั้งหมดที่ผมรู้ ผมจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ แล้วถ้าเรื่องมันไปไกล จนจับกุมผู้ก่อความเสียหายให้ประเทศชาติได้ และหลายคนในนั้นก็เป็นคนของรัฐ วันนั้นก็หวังว่าพวกคุณจะเข้าใจสิ่งที่ผมทำ ไม่ต้องขอโทษ แต่แค่ใจดีกับผมก็พอขอแค่นี้
ทนายษิทรา ยังยอมรับว่า ช่วงนี้อารมณ์ร้อน หลังโดนโลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์รูปภาพไปทำบุญกับภรรยา ส่วนเรื่องเงินทุนสีเทา เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นต่างได้ ยืนยันจะไม่ฟ้องใครข้อหาหมิ่นประมาท
ช่วงนี้ยอมรับจริงๆครับ หัวร้อน อย่างไปวัดผมก็ไปแก้บน พอเห็นภาพก็นึกอยากจะแซว อยากจะปั่นขึ้นมา เพราะอีกฝ่ายหาว่าผมไปเปิดบ่อนกับสารวัตรซัว ซึ่งเป็นการดิสเครดิตที่ทุเรศมาก พอโพสต์ไปเลยทำให้พุทธศาสนิกชนไม่พอใจเป็นอย่างมาก เมียก็ด่าตั้งแต่เมื่อวานจนวันนี้ จะลบก็เสียฟอร์ม เลยปล่อยไว้แบบนั้น ตำหนิได้เต็มที่ครับผม
ในประเด็นเรื่องเงินทุนสีเทา ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่กับผมเลยนะครับ ผมสัญญา ถึงผมจะเป็นทนาย แต่ในประเด็นนี้ ผมจะไม่ฟ้องใครด้วยข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาที่มาวิ่งเล่นในเพจผมแน่นอน เต็มที่ครับ เราคิดต่างกันได้โดยไม่ต้องเป็นศัตรูกัน
ก่อนหน้านี้ ทนายษิทรา กล่าวหาว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มีพฤติกรรมการเรียกรับเงินจากแก๊งสารวัตรซัวถึง 50 ล้านบาท ซึ่งต่อมา นายชูวิทย์ ตอบโต้ว่าไม่ใช่เรื่องจริงกรณีเรียกรับเงิน แต่ยอมรับว่ามีตำรวจยศนายพล 2 นาย นำเงิน 6 ล้านบาท มามอบให้เพื่อให้หยุดแฉข้อมูล จากนั้นได้นำเงินดังกล่าวทั้งหมดไปบริจาคให้โรงพยาบาลแล้ว และเตรียมดำเนินคดีกับ ทนายษิทรา
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เตรียมคืนเงินบริจาค 3 ล้านบาทให้กับนายชูวิทย์ เพราะอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย
ด้านสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เตรียมใช้กฎหมายฟอกเงินตรวจสอบเงินบริจาค 6 ล้านบาท ของนายชูวิทย์ หากพบความผิดจะดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน